AirPlay 2 คือฟีเจอร์ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก AirPlay รุ่นดั้งเดิมของ Apple ซึ่งเปิดตัวในปี 2018 ตัวเทคโนโลยีนี้ช่วยให้เราสามารถสตรีมสัญญาณเสียงและภาพแบบไร้สายจาก iPhone, iPad, หรือ Mac ไปยังลำโพง, Apple TV, หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่รองรับ AirPlay 2 ได้อย่างง่ายดาย ในเวอร์ชันที่สองนี้ Apple ได้เพิ่มฟีเจอร์ที่น่าสนใจหลายอย่างที่เราจะไปทำความรู้จักกัน
AirPlay 2 ทำอะไรได้บ้าง?
- สตรีมเสียงแบบ multi-room: ฟีเจอร์เด่นของ AirPlay 2 คือความสามารถในการสตรีมเพลงหรือเสียงอื่น ๆ ไปยังลำโพงหลายตัวพร้อมกัน ไม่ว่าลำโพงพวกนั้นจะเป็นยี่ห้อเดียวกันหรือไม่ก็ตาม สร้างประสบการณ์ฟังเพลงที่เต็มอิ่มทั่วบ้านของคุณ
- ควบคุมลำโพงแยกอิสระ: ในขณะที่สตรีมเพลงเดียวกันไปยังลำโพงหลายตัวได้ คุณก็ยังสามารถปรับระดับเสียงของแต่ละตัวแยกกันได้ เพื่อสร้างบรรยากาศตามต้องการในแต่ละโซนของบ้าน
- ใช้ Siri สั่งการ: การใช้คำสั่งเสียงกับ Siri ทำให้การใช้งาน AirPlay 2 สะดวกมากยิ่งขึ้น ลองสั่งแบบนี้ดูสิ “เฮ้ Siri เล่นเพลงร็อกเบา ๆ ในห้องนอน”
ความแตกต่างระหว่าง AirPlay 2 กับ AirPlay รุ่นแรก
จุดต่างหลัก ๆ ของ AirPlay รุ่นแรกกับรุ่นที่สองคือความสามารถในการเชื่อมต่อแบบ multi-room และการควบคุมลำโพงแยกอิสระ AirPlay รุ่นแรกทำได้เพียงสตรีมไปยังอุปกรณ์หนึ่งตัวในแต่ละครั้ง
อุปกรณ์ที่รองรับ AirPlay 2
มีหลากหลายอุปกรณ์ที่รองรับ AirPlay 2 ได้แก่
- ลำโพงจากแบรนด์ดังอย่าง Sonos, Bose, Bang & Olufsen และอีกมากมาย
- Apple TV
- HomePod
- อุปกรณ์อื่น ๆ ที่รองรับโดยตรง
วิธีการใช้งาน AirPlay 2
การใช้ AirPlay 2 แสนง่ายดาย เพียงทำตามขั้นตอนเหล่านี้
- เชื่อมต่อ iPhone, iPad, หรือ Mac ของคุณกับเครือข่าย Wi-Fi เดียวกับอุปกรณ์ที่รองรับ AirPlay 2
- เปิด Control Center หรือแอปที่เล่นเพลง/วิดีโอ
- มองหาไอคอน AirPlay (วงกลมที่มีสามเหลี่ยมข้างใต้)
- แตะไอคอนและเลือกอุปกรณ์ที่ต้องการสตรีมไป
เคล็ดลับใช้งาน AirPlay 2 อย่างมีประสิทธิภาพ
- วางตำแหน่งอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างชาญฉลาดเพื่อให้สัญญาณ Wi-Fi ครอบคลุม
- อัปเดตซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ Apple และอุปกรณ์ปลายทางให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ
- ใช้ Home App ของ Apple ในการจัดการและจัดกลุ่มอุปกรณ์ AirPlay 2 ของคุณ
สรุป
AirPlay 2 ทำให้การฟังเพลง สตรีมภาพยนตร์ หรือเพลิดเพลินไปกับคอนเทนต์เสียงต่าง ๆ เป็นเรื่องง่ายดายและเต็มอิ่มกว่าเดิม เทคโนโลยีอันชาญฉลาดจาก Apple นี้จะเปลี่ยนบ้านของคุณให้กลายเป็นระบบเสียงแบบ multi-room โดยที่คุณสามารถควบคุมได้อย่างเต็มที่และยืดหยุ่น
