ฟีเจอร์ล่าสุดในระบบ iOS 17 อย่าง NameDrop ที่มาพร้อมกับ AirDrop จะช่วยให้คุณแลกเปลี่ยนข้อมูลติดต่อกับใครก็ได้ เพียงแค่ “แตะ” iPhone สองเครื่องเข้าด้วยกัน เรียกได้ว่าสะดวกสุดๆ ไปเลย มาดูกันว่ามันทำงานยังไง
ไม่ต้องพิมพ์หมายเลขให้เมื่อย แทนที่จะเสียเวลาพิมพ์เบอร์โทรหรือข้อมูลของคนรู้จักใหม่ NameDrop ให้คุณส่งต่อรายละเอียดการติดต่อของคุณไปยัง iPhone เครื่องอื่นๆ เพียงแค่ถืออุปกรณ์เข้าใกล้กันเท่านั้น
เลือกแชร์ เลือกรับตามใจ เมื่อนำอุปกรณ์ทั้งสองมาใกล้กัน จะมีหน้าต่างป๊อปอัพสำหรับแลกเปลี่ยนข้อมูลติดต่อโดยอัตโนมัติ เมื่อเราแตะหน้าต่างดังกล่าว ระบบจะแสดงข้อมูลติดต่อและ ‘โปสเตอร์’ (รูปโปรไฟล์ที่ปรับแต่งได้ใหม่ใน iOS 17) คุณสามารถเลือก “รับอย่างเดียว” หรือแชร์ข้อมูลการติดต่อของคุณกลับไปด้วยได้
ไม่ต้องกลัวข่าวลือ NameDrop
คุณอาจเคยเห็นข่าวในโซเชียลหรือตามสำนักข่าวต่างๆ เตือนว่า NameDrop เป็นตัวเลือกที่สร้างความกังวลใจด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว แต่ขอบอกไว้ก่อนว่านี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด การแชร์ข้อมูลการติดต่อจะ ต้อง ได้รับการอนุญาตจากผู้ใช้ก่อนเสมอ
ระบบจะไม่แชร์ข้อมูลติดต่ออัตโนมัติ และเจ้าของเครื่องทั้งสองฝ่ายจะต้องมีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยน โดยยอมรับคำขอการโอนถ่ายข้อมูลด้วยตัวเอง ดังนั้น แม้ว่าในทางทฤษฎีอาจแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยบังเอิญได้ แต่ผู้ใช้ต้องปลดล็อคอุปกรณ์และยอมรับข้อความแจ้งการแชร์ด้วยตนเองเพื่อยืนยันการดำเนินการ
ปรับแต่งการใช้งานได้ตรงใจ คุณเลือกหมายเลขโทรศัพท์และอีเมลที่ต้องการแชร์กับอีกฝ่าย และหากบุคคลนั้นอยู่ในแอป “รายชื่อ” (Contacts) อยู่แล้ว ข้อมูลต่างๆ ก็จะอัปเดตให้อัตโนมัติ นอกจากนี้ NameDrop ยังทำงานได้ระหว่าง iPhone สองเครื่องที่มีระบบ iOS 17 หรือระหว่าง iPhone ที่มีระบบ iOS 17 และ Apple Watch ที่ใช้ watchOS 10 ด้วยนะ
เปิดหรือปิด NameDrop
เราคุ้นเคยกับการแชร์ข้อมูลผู้ติดต่อผ่านแถบเมนูต่างๆ แต่วิธีของ NameDrop ทำให้การให้ข้อมูลการติดต่อแก่ใครสักคนนั้นง่ายดายขึ้น หากคุณไม่ชอบฟีเจอร์นี้ก็สามารถปิดได้ ทำได้โดย
- เปิดแอป “การตั้งค่า” (Settings)
- เลือก “ทั่วไป” (General) -> “AirDrop”
- เลื่อนสวิตช์ข้าง “นำอุปกรณ์ทั้งสองมาไว้ใกล้กัน” (Bringing Devices Together) เปิดหรือปิด
เรียบร้อยแค่นี้เอง ข้อควรรู้คือการปิดใช้งานการตั้งค่านี้จะส่งผลกับฟีเจอร์ใหม่การแชร์ผ่าน AirDrop ด้วยเช่นกัน
